4 มะเร็งร้ายที่วัยทำงานต้องระวัง
สุขภาพ
จากข่าวด้านสุขภาพที่ Ticy City ทราบมาเป็นเรื่องที่น่าตกใจเมื่อพบว่ามะเร็ง..กำลังคุกคาม ‘คนรุ่นใหม่’ โดยเฉพาะ กับ4 มะเร็งร้ายที่วัยทำงานต้องระวัง
เนื่องจากผลวิจัยของ BMJ Oncology ปี 2023 ได้เผยว่ายอดผู้ป่วยมะเร็งในกลุ่มอายุต่ำกว่า 50 ปีทั่วโลกพุ่งสูงถึง 79% ในเวลาเพียง 30 ปี ทั้งยังคาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 ผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอีกถึง 31% และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 21% ตัวเลขนี้ คือสัญญาณเตือนว่ามะเร็งไม่ใช่แค่โรคของผู้สูงอายุอีกต่อไป
ทั้งนี้ Ticy City มีความคิดเห็นที่น่าสนใจโดยนายแพทย์ดุลยทรรศน์ อนันตะยา อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา ศูนย์อายุรกรรม รพ.วิมุต ถึงในเรื่องนี้ว่า “คนทำงานส่วนใหญ่มีความเครียดอยู่แล้ว แต่ถ้าจัดการความเครียดไม่ดีก็อาจกลายเป็นภาวะเครียดเรื้อรัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่หลายคนมองข้าม เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในระดับเซลล์ และนำไปสู่โรคมะเร็งได้ ยิ่งบางคนที่คลายเครียดด้วยการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นการเพิ่มสารพิษเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็ง ดังนั้น แม้ร่างกายของคนวัยทำงานจะยังดูแข็งแรงดี แต่หากยังทำพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ซ้ำ ๆ สะสมต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี โรคมะเร็งก็อาจมาเยือนได้โดยไม่ทันตั้งตัว”
อีกปัจจัยสำคัญคือเรื่องอาหาร เพราะชีวิตที่เร่งรีบหลายคนจึงเลือกบริโภค อาหารแปรรูป ที่หาซื้อได้สะดวก เช่น ไส้กรอก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง หรือฟาสต์ฟู้ด ที่มีสารก่อมะเร็งแฝงอยู่ ทั้งยังมีปริมาณไขมันและโซเดียมสูงส่งผลไม่ดีต่อร่างกาย ซึ่งหากรับประทานบ่อย และไม่ออกกำลังกายก็ทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินซึ่งส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลงได้
ปัจจุบันมีมะเร็งหลายชนิดที่พบได้ในคนอายุน้อย โดยโรคมะเร็งทั้ง 4 ชนิดนี้มีลักษณะแตกต่างกัน แต่จุดร่วมที่น่ากลัวคือคนเป็นกันไวขึ้น ไม่เว้นแม้แต่คนอายุน้อย ได้แก่
มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง
ปัจจุบันพบมากขึ้นในช่วงอายุ 30 ต้น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่บริโภคอาหารแปรรูปและแอลกอฮอล์ รวมถึงนอนดึก มักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก อาจมีแค่ขับถ่ายผิดปกติ เช่น อุจจาระลำเล็กลง หรือแค่น้ำหนักลด ทำให้หลายคนไม่ทันสังเกต รวมทั้งตรวจพบในระยะที่โรคลุกลามแล้ว ซึ่งถ้าถึงระยะที่สี่ โอกาสรักษาให้หายขาดแทบเป็นไปไม่ได้
มะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านมในคนอายุน้อยมีลักษณะรุนแรงและเติบโตเร็ว ทำให้รักษาได้ยาก ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การมีประจำเดือนเร็วกว่าคนรุ่นก่อน การไม่มีลูกหรือมีลูกช้าลง รวมถึงประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็ง และการใช้ยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน และมีหญิงสาวจำนวนไม่น้อยที่ตรวจพบในระยะลุกลามเพราะคิดว่ายังไม่มีความเสี่ยง ดังนั้นผู้หญิงทุกคนจึงควรฝึกคลำเต้านมด้วยตัวเองเพื่อตรวจคัดกรองเบื้องต้นไว้เสมอตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป
มะเร็งตับ
สัมพันธ์กับภาวะไขมันพอกตับ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี หรือบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนพิษของเชื้อรา อัลฟาท็อกซิน (เช่น ในพริกป่น ถั่ว อาหารแห้ง หรือผลไม้ที่ขึ้นรา) ยิ่งไปกว่านั้นการกินอาหารหวาน-มันจัด เกินความต้องการ ร่างกายจะเก็บสะสมเป็นไขมัน โดยเฉพาะที่ตับ ส่งผลให้ตับอักเสบเรื้อรัง แม้แต่คนรูปร่างผอมก็มีความเสี่ยงภาวะไขมันพอกตับและนำไปสู่มะเร็งได้เช่นกัน
มะเร็งปอด
แม้ว่าการสูบบุหรี่ยังคงเป็นสาเหตุหลัก แต่ในกลุ่มคนที่ไม่สูบกลับพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย ทั้ง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ควันบุหรี่มือสอง สารเคมี และการกลายพันธุ์ของยีนควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์(EGFR)
โรคมะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีสัญญาณชัดเจนในระยะแรก สิ่งสำคัญคือการใส่ใจความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย โดยเฉพาะอาการเล็กน้อยที่เป็นต่อเนื่องนานเกิน 2–4 สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็น ก้อนผิดปกติที่เต้านม น้ำหนักที่ลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ท้องผูกเรื้อรัง ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจจาระลำเล็กลงหรือถ่ายเป็นเลือด รวมถึงอาการซีด เหนื่อยง่าย หรือปวดท้องแบบเรื้อรัง แม้อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่มะเร็งเสมอไป แต่ก็ไม่ควรละเลย
ที่สำคัญโรคมะเร็งเป็นโรคร้ายที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับคนอายุน้อยอีกแล้ว จึงควรดูแลร่างกายให้ดีตั้งแต่วันนี้ เน้นกินให้ดี นอนให้พอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มากกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพราะมะเร็งส่วนใหญ่เป็นภัยเงียบที่ไม่แสดงอาการชัดเจน ยิ่งตรวจพบได้ไว โอกาสรักษาหายขาดก็ยิ่งสูง