รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ออกแถลงการณ์ ยึดหลักมนุษยธรรม-ความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2568 แถลงการณ์ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ระบุว่า จากประเด็นการเผยแพร่ภาพและข้อความที่เกี่ยวข้องกับหนังสือแจ้งเวียนภายในโรงพยาบาล รื่อง "การยกเลิกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชาและการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา" และมีการแชร์ตามสื่อโซเชียลต่างๆ ทำให้เกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อน ทางโรงพยาบาลจึงขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1.โรงพยาบาลให้การดูแลผู้ป่วยกัมพูชา เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม ผู้ป่วยรายเดิมที่ยังนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ให้บริการโดยปกติให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ㆍงดรับยาแทน เนื่องจากมีข้อจำกัดการจัดส่งยาข้ามแดน ทำให้มียาตกค้างจำนวนมาก
ㆍผู้ป่วยกัมพูชารายใหม่ พร้อมให้บริการตามหลักมนุษยธรรม โดยเฉพาะกรณีฉุกเฉิน
2.โรงพยาบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ญาติ และบุคลากรโรงพยาบาล
3. โรงพยาบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของสถานที่และบริเวณใกล้เคียง ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นพื้นที่ชายแดน
4.การให้บริการของโรงพยาบาลในสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน ทำให้ต้องปรับการให้บริการที่ไม่เร่งด่วนบางประการลง เช่น การเลื่อนผ่าตัดกรณีที่ไม่ฉุกเฉิน งดบริการคลินิกพิเศษเฉพาะทางนอกเวลาราชการ (SMC Premium) ซึ่งเป็นการบริหารทรัพยากรภายในเพื่อปรับภารกิจและรูปแบบการให้บริการ
5.การปฏิบัติงานของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา (ล่าม) งดปฏิบัติงานชั่วคราว เนื่องจากมีผู้ป่วยชาวกัมพูชาจำนวนน้อยมาก ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย'
ขณะที่นพ.มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี กล่าว่วา ด้วยความห่วงใยที่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นรพ.สรรพสิทธิประสงค์ จึงนำเสนอชี้แจง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นหนังสือที่สื่อสารภายใน เพื่อปรับระบบริการ
โดยอยู่บนสถานการณ์สำคัญ คือรพ.สรรพสิทธิประสงค์ ในพื้นที่ ระบบส่งต่อ ส่งโดยตรง จึงต้องปรับภารกิจช่วงเวลานี้ เน้นระดมทรัพยากรเพื่อดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บมาจากชายแดน ดังนั้น ในบทบาทรพ.สรรพสิทธิประสงค์เบื้องต้น จึงมีการสื่อสารเป็นการภายในการที่ลดบริการที่ไม่จำเป็นลง ที่ไม่ใช่เวลาเร่งด่วน ลงประมาณ 30 %
หนึ่งในนั้นคือ คลินิกพิเศษนอกเวลา หรือโอพีดีพรีเมี่ยม ซึ่งเมื่อมีสถานการณ์แบบนี้ ตั้งแต่ 24 ก.ค. 2568 รพ.เห็นว่าการรับบริการกลุ่มผู้ป่วยนอกลดลงมากเหลือเทียบเท่ากับ 1-2 % จึงมีการปรับการสื่อสารภายในตามที่มีการสื่อสาร คือ ปิดโอพีดีพรีเมี่ยม จนทำให้เกิดการสื่อสารออกไปนอกวงของรพ. ทำให้สื่อสารคลาดเคลื่อน รพ.เน้นย้ำหลักคิดและหลักปฏิบัติของรพ.สรรพสิทธิประสงค์
1.เรื่องมนุษยธรรม รพ.สรรพสิทธิประสงค์ยังรับผู้ป่วยถ้าหากมีความจำเป็น รวมถึงชาวกัมพูชา ที่ยังอยู่ในพื้นที่หรือมาจากพื้นที่อื่นๆแล้วจำเป็นต้องเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะภาวะฉุกเฉินมีช่องทางการดูแลและรับผู้ป่วย ในกลุ่มที่เข้ามาใหม่ อีกส่วนคือชาวกัมพูชาที่นอนรักษาตัวอยู่ในรพ. ซึ่งด้วยหลักมนุษยธรรมยังดูแลเฉกเช่นเดิม แต่ต้องดูแลความปลอดภัยต่อเขาด้วย จึงมีมาตรการ จำกัดพื้นที่ดูแล โดยเฉพาะล่ามและญาติ เพราะย้อนถึงความปลอดภัย เพราะฉะนั้น ในมนุษยธรรมทางรพ.ยังยึดหลักนี้อยู่ ไม่ว่าเชื้อชาติ ชนชาติ อายุอย่างไร รพ.สรรพสิทธิประสงค์ยังเป็นที่พึ่งทางสุขภาพ
2.เพื่อความปลอดภัย มี 2 ด้าน คือ ด้านสถานที่ รพ.ยึดอยู่เป็นที่พึ่งของเขตบริการสุขภาพและภูมิภาคแห่งนี้เป็นหลักดูแลรักษาพยาบาล ร และสถานที่ใกล้เคียนงสำคัญ มีปรากฎการณ์เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2568 มียานลอยเหนือพื้นที่ใกล้เคียง จึงต้องระวังความเสี่ยง ต้องดูแลล่าม ญาติ และผู้ป่วยด้วย และด้านบุคลากร ผู้ป่วยคนไทย เชื้อชาติอื่น และกัมพูชา ประเมินเหมือนกันถึงความเสี่ยง และการรักษาพยาบาลทำให้ดีที่สุด
“สิ่งที่ปรากฏในสังคมโซเชียลมีเดียมีการกระบต่อความเชื่อมั่นรพ.สรรพสิทธิประสงค์ จำเป็นต้องยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อดูแลรักษาประชาชน ไม่ว่าประชาชน พลเรือน ทหาร เชื้อชาติใด ยังยึดหลักมนุษยธรรมและประเมินความปลอดภัยไปในตัวด้วย”นพ.มนต์ชัยกล่าว